ปีหน้าฟ้าใหม่ ให้โบนัสพนักงานอย่างไร ให้มีกำลังใจทำงานตั้งแต่ต้นปี
ปีหน้าฟ้าใหม่ ให้โบนัสพนักงานอย่างไร ให้มีกำลังใจทำงานตั้งแต่ต้นปี
ซึ่งปี 2564 จะเป็นปีที่ร้านอาหารทุกแบรนด์ไม่ว่าจะเล็ก กลาง ใหญ่ จะใส่พลังกันเต็มที่เพื่อกู้สถานการณ์ยอดขายกลับมาทดแทนปีที่ผ่านมา และ “พนักงาน” จะมีส่วนสำคัญอย่างมากสำหรับการทำยอดขาย ทำกำไรเพิ่มให้กับร้าน ดังนั้น สิ่งที่ผู้ประกอบการจะต้องไม่ลืมและเตรียมไว้ในแผนประจำปีนี้ก็คือ เรื่องของการสร้างแรงจูงใจ สร้างพลัง กำลังใจให้กับพนักงาน เพื่อให้พวกเขาสู้เต็มที่ และคุ้มค่ากับการเหน็ดเหนื่อย โดยเครื่องมือที่จะนำมาใช้สร้างแรงจูงใจให้พนักงานก็คือ การให้โบนัสพนักงาน, Incentive เบี้ยขยัน ต่าง ๆ นั่นเอง
ปี 63 โบนัสไม่มี ลองเปลี่ยนเป็นกำลังใจแบบนี้ดูก็ดีนะ
สำหรับในปี 2563 นี้ ความคาดหวังในเรื่องโบนัสสำหรับพนักงาน แม้ว่าจะไม่มีเพราะรู้ถึงสถานการณ์ของร้านกันดี เอาแค่ไม่ต้องตกงานเหมือนหลาย ๆ คนในภาคธุรกิจอื่น ๆ ก็ดีใจแล้ว แต่แน่นอนว่า เมื่อเราจะวางแผนทำยอดขายเพิ่มในปีใหม่นี้ การสร้างขวัญกำลังใจตั้งแต่ต้นปีก็สำคัญ เมื่อโบนัสไม่สามารถให้ได้ก็เปลี่ยนมาเป็นให้อั่งเปาในวันตรุษจีนแทน ด้วยนิยามโบนัสกับอั่งเปาต่างกัน เมื่อพูดถึงโบนัสจะคาดหวังถึงเปอร์เซ็นต์ของเงินเดือนที่จะได้รับ แต่ถ้าเป็นอั่งเปาขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของผู้ให้ แต่ก็ช่วยสร้างกำลังใจตั้งต้นที่ดี
วางแผนเรื่องโบนัสตั้งแต่ต้นปี ด้วย KPI แบบง่าย ๆ
เมื่อพูดถึงโบนัส ความผิดพลาดอย่างหนึ่งของผู้ประกอบการร้านอาหาร SME คือ ไม่ได้วางแผนเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่แรก ทำให้เมื่อถึงสิ้นปีเงินส่วนโบนัสไม่มี หรือ เกิดความเสียดายที่จะต้องตัดเงินกำไรออกมาจ่ายโบนัส แต่ปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้นถ้ามีการวางแผนให้โบนัสตั้งแต่ต้นปี อย่าลืมว่า พนักงานก็ต้องการความก้าวหน้า ต้องการรายได้เพิ่มจะให้ทำงานได้เท่าเดิมไปตลอดก็ไม่ไหว มีหลายร้านที่ต้องเสียพนักงานดี ๆ ไปเพราะมองข้ามเรื่องนี้ และก็มีหลาย ๆ ร้านที่เสียพนักงานดี ๆ ไปเพราะการให้โบนัสจากความรู้สึกของเจ้าของร้าน ดังนั้นในการให้โบนัสจะต้องมีการประเมินการทำงาน หรือการใช้ KPI มาเป็นเครื่องมือในการให้โบนัส ห้ามใช้ความรู้สึกของตัวเอง
แนวทางเริ่มต้นแบบง่าย ๆ คือ การกำหนด Job Description หน้าที่หลัก หน้าที่รองให้กับพนักงานแต่ละตำแหน่ง แต่ละคน ว่าต้องทำอะไรบ้าง และกำหนดเป้าหมายการทำงานของแต่ละแผนก และขององค์กร ยึด Job Description เป็นตัววัด KPI พนักงานตลอดทั้งปี อย่าวัดเพียงช่วงใดเวลาใดเวลาหนึ่ง เพราะอาจมีพนักงานบางคนที่ประสบการณ์สูงทำตัวขยันช่วงปลายปี กลายเป็นคนโดดเด่นเพื่อดัน KPI และต้องดูเรื่องการทำตามกฎระเบียบของบริษัทด้วย พนักงานบางรายอาจฝีมือดี ทำงานเก่ง แต่ขาดบ่อย ลาบ่อย ก็ต้องพิจารณา KPI รวมไปถึงทัศนคติการทำงานด้วย
การใช้ KPI เป็นเครื่องมือในการประเมินโบนัสจะช่วยลดปัญหาความไม่พอใจของพนักงาน เพราะทุกอย่างคุยกันด้วยข้อมูล หลักฐาน การทำงานที่ผ่านมาจริง ๆ
ตัวอย่างรายงานประเมินการทำงาน
Incentive เครื่องมือกระตุ้นยอดขายระหว่างเดือน
อีกหนึ่งเครื่องมือสร้างแรงจูงใจให้พนักงานทำยอดขายเพิ่มก็คือ Incentive ซึ่งต้องทำความเข้าใจก่อนว่า Incentive คือ รายได้พิเศษที่มีเงื่อนไขในการให้จากบริษัท หรือจากผู้ประกอบการ เป็นเครื่องมือใช้เพื่อเร่งยอดด้วยการสร้างแรงจูงใจให้พนักงานเชียร์ขาย แต่ถ้าใช้ไม่เป็น หรือ กำหนด Incentive ไม่น่าจูงใจก็จะไม่เกิดผลอะไรตามมา
วิธีตั้ง Incentive ให้ได้ทั้งกำไรและได้ใจพนักงาน
1.Incentive สำหรับรายบุคคล (พนักงาน) : ใช้สำหรับของที่ขายออกยาก มีราคาแพงแต่มีกำไรสูง
ตัวอย่าง : พนักงานคนใดขายซาซิมิ เซ็ทใหญ่ ราคา 1,200 บาทได้ รับไปเลย 50 บาท/เซ็ท
หรือ ขายชุดเบเกอร์รี่ปีใหม่ ราคา 800 บาทได้ รับเลย 30 บาท/ชุด
2.Incentive สำหรับรายบุคคล (ผู้จัดการร้าน/หัวหน้าครัว) : ใช้สำหรับควบคุมต้นทุนหรือพลักดันยอด
ผู้จัดการร้าน – ตั้งเป้ายอดขายรวมรายสัปดาห์ให้ผู้จัดการร้านดูแล สมมติปกติได้ 100,000 บาท/สัปดาห์
ตัวอย่าง : เป้ายอดขาย 110,000 บาท/สัปดาห์ ทำได้เกินเป้าที่ตั้งให้เลย 2,000 บาท/สัปดาห์ เชื่อว่าคงใส่พลังเต็มที่เพื่อให้ได้ตามเป้า
หัวหน้าครัว – ตั้งเป้าควบคุมต้นทุนไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ แก๊ส น้ำ วัตถุดิบอาหาร น้ำยาเคมี อุปกรณ์สิ้นเปลืองในการทำความสะอาดต่าง ๆ
ตัวอย่าง : สมมติปกติต้นทุนอาหารอยู่ที่ 37% เราก็ตั้งเป้าให้หัวหน้าครัวควบคุมให้เหลือ 35% ถ้าทำได้สิ้นเดือนรับ 3,000 บาท
แต่ข้อควรระวังสำหรับการควบคุมต้นทุนอาหารนั้น ต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงว่าสามารถทำได้จริงโดยไม่ส่งผลต่อคุณภาพอาหาร
3.Incentive สำหรับกลุ่ม : เป็นวิธีที่ง่าย ไม่เกิดความลำเอียง และสร้างทีมเวิร์ค ซึ่งแนะนำใช้สำหรับการเชียร์ขายอาหารทุกประเภท ทุกราคา ที่ต้นทุนต่ำ ทำง่าย ไม่รอนาน
ตัวอย่าง : ชื่อกิจกรรม “มกราฯ..ล่ารางวัล”
รายละเอียด เดือนมกราคมนี้ ขาย MangoSoda (89บาท) ครบ 200 แก้ว รับ incentive 2,000 บาท/ร้าน
ครบ 350 แก้ว รับ incentive 4,000 บาท/ร้าน
ครบ 500 แก้ว รับ incentive 6,000 บาท/ร้าน
โดยการให้ Incentive นั้นต้องอยู่บนพื้นฐานที่ว่าถ้าเราเป็นพนักงานเรารู้สึกอยากได้หรืออยากทำหรือไม่
และสิ่งที่เราได้จากการทำกิจกรรมนั้น หักลบกับสิ่งที่จ่าย incentive ไปแล้วมีกำไรเหลือตามที่เราพึงพอใจหรือไม่
คลิกอ่าบทความอื่นได้ที่นี่
